top of page
ค้นหา

เครื่องผลิตออกซิเจน กับ ถังออกซิเจน แตกต่างกันอย่างไร - Now Bed Care

อัปเดตเมื่อ 13 ก.ย. 2564

เครื่องผลิตออกชิเจน กับ ถังออกชิเจน ทั้ง 2 อุปกรณ์นี้ถูกใช้สำหรับการบำบัดด้วยออกชิเจนเพื่อรักษาผู้ป่วยจากโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง หรือ ภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรักษาระดับของออกชิเจนในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ อย่างไรก็ตามการทำงานของทั้ง 2 อุปกรณ์มีหน้าที่เดียวกั๋น คือการนำส่งออกซิเจนไปยังผู้ป่วย แต่ก็มี ข้อดี และ ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน


ปัจจุบันในท้องตลาดทั่วไปมีทั้ง เครื่องผลิตออกชิจน และ ถังออกชิเจน จำหน่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งราคา ขนาด และรุ่น ก็มีให้เลือกหลากหลาย ในบทความนี้จะช่วยสรุปข้อแตกต่าง ทั้งข้อดี และ ข้อเสียของ เครื่องผลิตออกชิเจน และ ถังออกซิเจน เพื่อช่วยในการประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม



เครื่องผลิตออกซิเจน

ข้อดี

1. ใช้งานง่าย แค่เสียบปลั๊กแล้วเปิดเครื่อง เครื่องผลิตออกชิเจนก็จะเริ่มทำงาน และ สามารถผลิตออกซิเจนออกมาได้ในทันที

2. ประหยัดวลา ไม่ต้องคอยเติมซออกชิเจนบ่อยๆ เหมือนการใช้ถังออกชิเจน บางครั้งอาจพบเจอปัญหา เช่น ร้านเติมก๊าซปิดบริการ หรือ ก๊าซออกซิเจนหมดกระทันหัน

3. ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าในระยะยาว ถึงแม้ตัวเครื่องผลิตออกชิเจนจะมีราคาแพงกว่าถังออกชิเจน แต่เป็นการซื้อครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียค่าบริการเติมก๊าซออกซิเจน ค่าเดินทาง หรือค่าขนส่งใดๆ อีก

ข้อเสีย

1. ไม่สามารถใช้งานได้ขณะไฟฟ้าดับ หรือ ไม่มีไฟฟ้า เครื่องผลิตออกชิเจนจะไม่สามารถใช้งานได้ จำเป็นต้องมีถังออกชิเจนสำรองเตรียมไว้ในกรณีที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับออกซิเจนตลอดเวลา

2. ไม่สามารถใช้งานระหว่างการเดินทางได้ เครื่องผลิตออกชิเจนส่วนใหญ่ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้งานกับไฟบ้านการใช้เครื่องผลิตออกชิเจนในรถระหว่างการเดินทางจึงถือเป็นอีกข้อจำกัด และ เป็นข้อแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกชิเจนและถังออกซิเจน แต่ปัจจุบันมีเครื่องผลิตออกชิเจนขนาดพกพาสำหรับการเดินทาง และ สามารถต่อใช้งานบนรถ หรือใช้กับแบตเตอรี่สำรองได้แล้ว


ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน Now Bed Care ขอให้ทุกท่านเลือกซื้อในสิ่งที่เหมาะสมต่อการใช้งานของท่าน

ดู 14 ครั้ง0 ความคิดเห็น
เตียงไฟฟ้า ลายไม้ Invacare Medley Ergo
My project (6).png
bottom of page